ตลาดหุ้นตามที่ฝรั่งได้แบ่งไว้ 2 แบบ คือ Bullish กับ Bearish
ตลาดแบบแรกก็ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงเดือนก่อน เอาลิงมาจิ้มพอร์ทยังบวก O_o
แต่ในยามที่ดัชนีหุ้นในตลาดปรับตัวสูง และสถานการณ์รอบๆประเทศ และบ้านเมืองไม่ชัดเจน
ก็คงถึงคราวที่หมีมาเยือน อิอิ ( ยืมรูปอาจารย์ปลานิลจิ๋วหน่อย ) หมีน่ากลัวมั้ย :P เรามาดูกันว่าเราควรจะทำยังไงกันบ้างช่วงตลาดหมีมา
เรามีวิธีรับมือกับตลาดหมีแบบไหนกันบ้าง ?
1.พิจารณา port ตัวเอง ว่าหุ้นที่เราถือเป็นหุ้นที่ขึ้นแรง ในช่วงเร็วๆนี้หรือเปล่า ถ้าขึ้นแรงก็มีโอกาสลงแรง นักลงทุนเก๋าๆ เห็นท่าไม่ดีก็ short against port ซะแล้ว ยิ่งทำให้ราคาไหลลงไปอีก ถ้าพิจารณาว่าหุ้นที่เราถือเป็นตัวที่ขึ้นลงแรง เมื่อยังมีกำไร และเห็นตลาดมีแนวโน้มว่าจะลงต่อ ( เพราะยังเลือกตั้งไม่เสร็จ ) หากกำไรก็ควร จะ take profit เสียก่อน แต่หากยังกำไรอยู่เยอะให้พิจารณาว่าจะลงไปจุดที่เราเพิ่งซื้อมาหรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่ขนาดนั้น ( เช่นถ้าซื้อ DTAC ตอน 36บาท , CPF ตอน 25 บาท ) ก็สมควรถือต่อไป
2.หุ้นที่อยู่ในมือเรา แข็งแกร่งพอมั้ย ถ้ามั่นใจในตัวบริษัท และผลประกอบการที่คาดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นโอกาสดีที่จะถือต่อไป และหางานอย่างอื่นทำซะ ^_^
3.ถ้าเราเป็นพนักงานกินเงินเดือน ยิ่งโคตรดีเลย เพราะจะได้มีโอกาสซื้อหุ้น ดีๆ ราคายุติธรรมมากขึ้น
4. ถ้าดูแล้วในพอร์ท มีแต่หุ้นหวือหวา อันนี้ต้องพิจารณาเองว่ามันจะลงต่อยาวหรือไม่ ขายก่อนได้short ก่อนนะครับ
ตลาดหมีไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเมื่อขึ้นจนสุดมันก็ต้องมีลงอยู่แล้ว เหมือนเมื่อคนอยากขายหมดหุ้นก็ต้องขึ้น ( อิอิ คำพี่ปุกปุยแห่ง wave rider ) ฉะนั้น เราอาจจะต้องเริ่มพิจารณาพอร์ทเราในตอนนี้แล้วว่าเป็นอย่างไร และจะจัดการยังไงกับมันครับ สำหรับผมคิดว่ามันน่าจะ ok หลังการเลือกตั้งเพราะนักการเมืองที่ถือหุ้นอยู่ต้อง take profit (หุ้น) มาใช้ในการ take profit (ประเทศชาติ)อีกที (อ้าวไหงงั้น วุ้ย T_T)
หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ ^_^
ตลาดแบบแรกก็ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงเดือนก่อน เอาลิงมาจิ้มพอร์ทยังบวก O_o
แต่ในยามที่ดัชนีหุ้นในตลาดปรับตัวสูง และสถานการณ์รอบๆประเทศ และบ้านเมืองไม่ชัดเจน
เรามีวิธีรับมือกับตลาดหมีแบบไหนกันบ้าง ?
1.พิจารณา port ตัวเอง ว่าหุ้นที่เราถือเป็นหุ้นที่ขึ้นแรง ในช่วงเร็วๆนี้หรือเปล่า ถ้าขึ้นแรงก็มีโอกาสลงแรง นักลงทุนเก๋าๆ เห็นท่าไม่ดีก็ short against port ซะแล้ว ยิ่งทำให้ราคาไหลลงไปอีก ถ้าพิจารณาว่าหุ้นที่เราถือเป็นตัวที่ขึ้นลงแรง เมื่อยังมีกำไร และเห็นตลาดมีแนวโน้มว่าจะลงต่อ ( เพราะยังเลือกตั้งไม่เสร็จ ) หากกำไรก็ควร จะ take profit เสียก่อน แต่หากยังกำไรอยู่เยอะให้พิจารณาว่าจะลงไปจุดที่เราเพิ่งซื้อมาหรือไม่ ถ้าคิดว่าไม่ขนาดนั้น ( เช่นถ้าซื้อ DTAC ตอน 36บาท , CPF ตอน 25 บาท ) ก็สมควรถือต่อไป
2.หุ้นที่อยู่ในมือเรา แข็งแกร่งพอมั้ย ถ้ามั่นใจในตัวบริษัท และผลประกอบการที่คาดว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นโอกาสดีที่จะถือต่อไป และหางานอย่างอื่นทำซะ ^_^
3.ถ้าเราเป็นพนักงานกินเงินเดือน ยิ่งโคตรดีเลย เพราะจะได้มีโอกาสซื้อหุ้น ดีๆ ราคายุติธรรมมากขึ้น
4. ถ้าดูแล้วในพอร์ท มีแต่หุ้นหวือหวา อันนี้ต้องพิจารณาเองว่ามันจะลงต่อยาวหรือไม่ ขายก่อนได้short ก่อนนะครับ
ตลาดหมีไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเมื่อขึ้นจนสุดมันก็ต้องมีลงอยู่แล้ว เหมือนเมื่อคนอยากขายหมดหุ้นก็ต้องขึ้น ( อิอิ คำพี่ปุกปุยแห่ง wave rider ) ฉะนั้น เราอาจจะต้องเริ่มพิจารณาพอร์ทเราในตอนนี้แล้วว่าเป็นอย่างไร และจะจัดการยังไงกับมันครับ สำหรับผมคิดว่ามันน่าจะ ok หลังการเลือกตั้งเพราะนักการเมืองที่ถือหุ้นอยู่ต้อง take profit (หุ้น) มาใช้ในการ take profit (ประเทศชาติ)อีกที (อ้าวไหงงั้น วุ้ย T_T)
หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ ^_^
No comments:
Post a Comment